28.11.51

ประวัติท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ

ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ (ชื่อเดิม: สนามบินหนองงูเห่า) เป็นสนามบินตั้งอยู่ที่ ถนนบางนา-ตราด ในตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เปิดใช้งานวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยใช้งานแทนท่าอากาศยานดอนเมือง นโยบายรัฐบาลได้กำหนดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ และจะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
จากข้อมูลการจัดอันดับล่าสุดของเว็บไซต์ "สมาร์ตทราเวลดอตคอม" ที่มีการสำรวจความเห็นของผู้เดินทางทั่วโลกเปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของไทยนั้นได้รับการจัดอันดับให้เป็นท่าอากาศยานยอดเยี่ยมอันดับที่ 4 ของโลก รองจากท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี และท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย

ชื่อสนามบิน
ชื่อของสนามบินสุวรรณภูมิ มีความหมายว่า "แผ่นดินทอง" เป็นชื่อพระราชทานโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2543 และเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2545
ชื่อสากลของสนามบินสะกดตามการถ่ายตัวสะกดภาษาสันสกฤต ว่า "Suvarnabhumi" แทนการเขียนทับศัพท์ตามระบบราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งสะกดว่า "Suwannaphum"

มหัศจรรย์เลข 9
นอกเหนือกิจกรรมที่จัดขึ้น โดยการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9 เดือน 9 (กันยายน 2549) ซึ่งมีการวิ่งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยมีนักวิ่งจากภูมิภาคต่างๆ (จำนวนที่ลงทะเบียน 9,999 คน) แล้ว เป็นที่น่าสังเกตถึง มหัศจรรย์เลข 9 [6][7] ดังต่อไปนี้

อาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน มีระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้น 9 เมตร ซึ่งเสาหลัก (เสาไพลอนที่ค้ำซูเปอร์ทรัส) หรือคานหลักรั้น มี 2 ตัวต่อ 1 คาน รวมกันเป็น 1 ชุด
เสา 2 ตัวที่ค้ำคานนี้จะห่างกัน 81 เมตร (8+1=9)
ชุดเสาที่อยู่ทางทิศตะวันออกจะห่างจากชุดเสาทางด้านทิศตะวันตก 126 เมตร (1+2+6=9)
หลังคาผ้าใยสังเคราะห์ที่ติดตั้งกับอาคารเทียบเครื่องบินทั้งหมด 108 ช่วง (1+0+8=9)
สำหรับทางเลื่อนระนาบผิวเฉพาะในเทอร์มินอลมีทั้งหมด 95 ชุด มีความยาวตั้งแต่ 27 เมตร (2+7=9) และ 108 เมตร (1+0+8=9)
ความเร็วของทางเลื่อนในอาคารรวมทั้งทางเลื่อนลาดเอียง มีความเร็วนาทีละ 45 เมตร (4+5=9)

ความเป็นที่สุด
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ" และยังเป็นที่กล่าวขวัญถึง "ความเป็นที่สุด" ในหลายๆ ด้าน ดังต่อไปนี้

หอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 132.2 เมตร พร้อมระบบการนำร่องอากาศยานที่ทันสมัย

โรงซ่อมเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดพื้นที่จอดเครื่องบินรวม 27,000 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาดยักษ์แอร์บัส 380 ได้พร้อมกัน 3 ลำ โรงซ่อมเป็นอาคารสูง 35 เมตร กว้าง 90 เมตร ยาว 270 เมตร โดยไม่มีเสากีดขวาง โครงหลังคาใช้วัสดุเหล็กที่มีลักษณะเป็นซูเปอร์สตรักเจอร์ที่ใช้คานเหล็ก มีน้ำหนักรวม 10,000 ตัน ใช้เงินลงทุนก่อสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท

ล็อบบี้ของโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร มีห้องพักถึง 600 กว่าห้อง เป็นบริเวณล็อบบี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เป็นสนามบินที่ทำสถิติใช้ระยะเวลาการก่อสร้างยาวนานที่สุด ถึง 45 ปี

มีเรื่อง “ฉาวโฉ่เรื่องการทุจริต” มากที่สุด ตั้งแต่เริ่มคิดโครงการเมื่อ พ.ศ. 2503 เรื่อยมาจนการเริ่มการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร

เป็นอาคารผู้โดยสารเดี่ยว (มิใช่กลุ่มอาคาร) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในการก่อสร้างครั้งเดียว โดยมีพื้นที่ใช้สอยถึงประมาณ 563,000 ตร.ม ซึ่งต่อมาทางสนามบินนานาชาติฮ่องกงได้ต่อเติมอาคารผู้โดยสารที่ 1 ออกไป จนมีขนาด 570,000 ตร.ม. ใหญ่กว่าของสุวรรณภูมิ

สนามบินที่ใหญ่ที่สุด ทันสมัยที่สุดในโลกภาย

ในอาคารเทียบเครื่องบิน ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในโลกระบบการบริหารจัดการท่าอากาศยานทุกกิจกรรม ที่ใช้ระบบไอทีติดอันดับโลก โดยถูกเชื่อมโยงด้วยระบบเทคโนโลยีทันสมัยที่เรียกว่า AIM (Airport Information Management System)

อัตราค่าธรรมเนียม หรือ landing fee ที่ต่ำที่สุด เทียบกับสนามบินทั้งหมดในแถบภูมิภาคเดียวกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก wikepedia.org

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

nice blog, thanks for sharing :)


tag:รายชื่อสนามบินAirline สายการบินAirlines สนามบิน สายการบินในประเทศไทย สายการบินต่างประเทศ Airport รวม link สายการบินทั่วโลก รวม link สนามบินท่าอากาศยาน web สนามบิน ท่าอากาศยาน การบินไทย สนามบินสุวรรณภูมิ การขอทำ Visa หลักฐานในการทำวีซ่าIf you like to travel and want to see a detail of airline. Web page is introduce you about list name of Airlines, Airports in Thailand, Airlines foreign, Visa andeverything important for travel.

How to Travel Safely

No matter where you go or where your trip takes you there is and always will be a need for safety tips and rules. So to travel safely while on your city break you should use some if not all of the following tips:Know Your AreaIt doesn't matter if you are in Rome or Greece you need to have a good idea of the town's layout and important features. Some of the important places to know are where you are staying, where the local hospital is, where the police are located and at least one apothecary. Now this may seem hard, but if you have a map and mark them on it then find the center most location you have a start. Once you know what the center of town is find something unique or that will stand out, even a local business will work. Now that you know spot you chose and its local name you will be able to start back there time and time again, and by knowing which important item is in which direction you can get help when needed.Keep Your Valuables Locked UpDo not carry everything with you when you travel and what you do carry ensure it. Once you get to your destination many of the local banks and hotels have safety boxes you can rent and store your personal valuables in. You can also keep most of your belongings in your room as well, only place items that cannot be replaced in the safes.Dress AccordinglyWhile you are out and about notice how others are dressed and try for the same casual look. Not only will you be able to blend in more and make targeting tourist harder but also you can experience the local country so much more.Medical NeedsKeep all medicines with you at all times with extra locked away safely, have a list of instructions incase something does happen and make sure to have a list of phone numbers as well. By caring medicine in its prescribed bottle with you, if something happens the local doctor will already know some about you and how to treat you. Also having at the hotel helps to ensure you have a supply if you need it. When preparing for your trip you need to tell your doctor where you are going and for how long also that you want two bottles for your medicines one to carry and one to store.Being safe and keeping safe while traveling in different countries is no different that when you are traveling to another state. By being prepared and paying attention to what is around you, you will find yourself having a better and healthier time abroad.